ตาแห้งเป็นโรคทางดวงตาที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน ซึ่ง อาการตาแห้งเป็นโรคที่เกิดจากระบบต่อมน้ำตาที่ทำงานผิดปกติ ซึ่งเห็นสาเหตุทำให้ปริมาณน้ำตาไม่เพียงพอที่จะสร้างความชุ่มชื่นให้แก่ดวงตาของเรา ซึ่งควรรีบดูแลรักษา เพื่อที่จะไม่ส่งผลต่อโรคตาที่รุนแรงมากขึ้น Health30Plus ขอเสนอวิธีการสังเกตุตาแห้งเพื่อจะได้หาวิธีป้องกันได้อย่างรวดเร็วและทันเวลาจากสัญญาณดังนี้
Table of Contents
7 สัญญาณ อาการตาแห้ง ที่อาจเป็นอันตรายต่อดวงตารุนแรง
อยากเข้าใจเรื่องตาแห้งมากขึ้น แนะนำให้อ่านบทความนี้ก่อน
คันตา แสบตา เคืองตา
อาการที่สังเกตุได้ง่าย เมื่อเริ่มรู้สึกคันตา แสบตา หรือ มีอาการเคืองตา จะเป็นนึงในสาเหตุที่บอกว่า ตัวเองตาแห้งแล้วเพราะดวงตาขาดความชุ่มชื้นนั้นเอง
รู้สึกคล้ายกับมีฝุ่นอยู่ข้างในตา
เมื่อตาแห้งจะมีอาการเหมือนมีฝุ่นอยู่ในตา ใช้น้ำตาเทียมล้างตาอาจจะทำให้รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย ซึ่งอาจใช้น้ำตาเทียมหยอดตารวมด้วยได้ อย่างไรแล้ว หามีอาการรุนแรงแนะนำให้ไปพบแพทย์ตัวเช็คดวงตา คำเตือน เวลาล้างตาห้าใช้น้ำเปล่าเด็ดขาดทำจะทำให้ตาขาดสารอาหารบางอย่าง ย้ำว่าควรใช้น้ำตาเทียมล้างทุกครั้ง
มีอาการ แพ้แสง แพ้ลม
ตาแพ้แสงไวในบางครั้งสำหรับคนที่เป็นตาแห้ง มั่นสังเกตุตัวเองบ่อยๆ นอกจากแพ้แสงแล้ว หากเห็นแสงฟ้าแลบ ก็อาจจะส่งผลถึงการเป็นโรคตาอื่นทับซ้อนได้ ควรดูรีบดูแลดวงตา
ตามัว
เมื่อมีอาการตาแห้งบางครั้งก็จะเกิดอาการตามัว ไม่โฟกัสกับภาพหรือสิ่งของตรงหน้า เป็นเพราะว่า สายตาอาจจะมีอาการแย่ลง ลองดูว่า มีอาการดวงตาอื่นๆ ที่ว่ามาด้วยไหม เพราะแต่ละสัญญาณที่ว่ามา มักจะเกิดร่วมกัน
รู้สึกไม่สบายตา
การรู้สึกไม่สบายตาไม่ว่าจะตอนนอนไปแล้ว โดยเฉพาะตอนตื่นนอนหากรู้สึกไม่สบายตานั้นก็เป็นสาเหตุของตาแห้งเช่นกัน พอไม่สบายตาก็ทำให้รู้สึกว่าไม่สามารถใช้สายตาเพื่อทำงานได้ ก็ทำให้การใช้ชีวิตแย่ลองทีละเล็กทีละน้อย
ตาแดง
การแสบตาก็ส่งผลต่ออาการตาแดงได้ ตาแดงในที่นี่ไม่ใช่หมายถึงแดงจากไวรัส แต่เพราะเส้นเลือดฟอยในดวงตาแดง เพราะ มาจากการตาแห้งนั้นเอง
สายตาแย่ลง
สังเกตุการใช้ชีวิตการโฟกัสสิ่งของ การหยิบจับ คำนวณระยะผิดพลาดบ่อยๆ อาจจะมาจากการตาแห้ง จนตามัว สายตาเริ่มแย่ลง
สัญญาณที่พูดมาแต่ละคนอาจจะเป็นมากน้อยไม่เท่ากัน แต่ตาแห้งก็มักจะถูกมองข้ามเสมอ คิดว่าการหยอดตาอย่างเดียวจะช่วยได้ แน่นอนหลายๆ ครั้งช่วยได้ พอหายไม่นานก็กลับมาเป็นอีก เป็นบ่อยๆ ก็จะ ส่งผลต่อโรคตารุนแรงมากขึ้น ต้อหิน ต้อกระจก จอตาเสื่อม ได้ในอายุที่มากขึ้น หากวัย 30+ ขึ้นแล้ว แนะนำให้เริ่มดูแลดวงตากันตั้งแต่ตอนนี้ จริงๆ อายุเท่าไหร่ก็ควรดูแลดวงตา
วิธีการดูแลสำหรับอาการตาแห้ง
การดูแลดวงตาอย่างไร หากเป็นรุนแรงจากสัญญาณที่ว่ามาทั้งหมด ควรไปปรึกษาทางจักษุแพทย์ก่อน จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเสมอ แต่ก็มีวิธีทีดูแลเบื้องต้นแบบนี้
หยอดน้ำตาเทียม
- น้ำตาเทียบแบบไม่มีสารกันเสีย ซึ่งจะมีรูปแบบเป็นขวด ใช้สำหรับล้างตา หรือ แช่คอนเทคเลนส์ ก็จะช่วยได้ระดับนึง
- น้ำตาเทียบแบบมีสารกันเสีย หลอดเล็กๆ ใช้ภายใน 1 วัน จะเป็นการช่วยสำหรับคนที่มีอาการตาแห้งที่เริ่มรุนแรงมากขึ้น
เพิ่มออกซิเจนในร่างกาย
การออกกำลังกาย การวิ่ง การกระโดด จะเป็นการเพิ่มออกซิเจนในร่างกายทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น ก็จะส่งผลให้ตาทำงานได้ดีขึ้นต่อมน้ำตาทำงานได้ดีขึ้น ดวงตากลับมาชุ่มชื้นมากขึ้นนั้นเอง
ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา
ปัญหาดวงตาส่วนนึงเกิดจากในแต่ละวันไม่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะดวงตาที่คนมักจะละเลยไป ดังนั้นถึงเวลาที่ต้องทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตามากขึ้น ่จักษุแพทย์แนะนำให้ทาน โอเมก้า-3 , วิตามินเอ จะมีส่วนช่วยดูแลดวงตาได้ ซึ่งก็มีงานวิจัยแนะนำให้ทาน ลูทีนและซีแซนทีน ที่ช่วยในการดูแล ป้องกัน และ ฟื้นฟูดวงตาได้
ตาแห้งเหมือนจะไม่ใช่โรคดวงตาที่ร้ายแรง แต่ก็เป็นส่วนนึงในสาเหตุของการเป็นโรคตาที่รุนแรงต่างๆ มากมาย รีบดูแลดวงตากันเถอะ จะได้ใช้ดวงตาคู่นี้เพื่อเห็นคนที่รักไปเรื่อยๆ
แนะนำอาหารเสริมฟื้นฟูดวงตาจากงานวิจัย Herbitia Lutein
ที่มีสารสกัดเข้มข้นจากอิตาลี